โอกาสเล็กๆที่เราหยิบยื่นให้กับใครบางคน อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของเขา

“การศึกษา คือ การลงทุน”
เราคงคุ้นชินกับวลีนี้จนดูเป็นเรื่องธรรมดาที่เห็นอยู่ในชีวิตประจำวัน แต่กับใครบางคน มันแสดงถึงความเจ็บปวด เพราะถ้าหากไม่มี ‘ต้นทุนชีวิต’มากพอ เขาจะไปต่อได้อย่างไร? เราได้เดินทางไปพบกับเด็กหญิงคนหนึ่งหน้าตาน่ารัก เธอยิ้มทักเราด้วยใบหน้าที่ร่าเริงแจ่มใส 

สีนวล เป็นเด็กหญิงคนหนึ่งที่ครอบครัวอาศัยอยู่บนดอยและทำมาหากินด้วยการรับจ้างทำการเกษตร  การเดินทางมาโรงเรียนก็ยากลำบาก วันหนึ่ง สีนวลถามคุณครูศุภราพรว่า

“คุณครูคะ ทำไมเสื้อผ้าของครูกับเพื่อนบางคนถึงเรียบจังเลย กระโปรงก็ดูสวย” พอก้มลงมองที่กระโปรงของตัวเอง ก็เห็นความแตกต่างกระโปรงที่รีดเรียบเป็นจีบคม ดูสวยงาม ทำให้สีนวลสงสัยว่าคนอื่นๆ เขาทำอย่างนั้นได้อย่างไรกัน คุณครูตอบเธอกลับไปด้วยความเอ็นดู

“เขาใช้เตารีด รีดผ้ากันจ้ะ”
“เตารีดหรอคะ”

“ใช่จ้ะ ไว้ครูจะสอนสีนวลรีดผ้านะ”

หลังจากวันนั้น สีนวลก็มีโอกาสได้จับเตารีดและฝึกรีดผ้าที่บ้านของคุณครูศุภราพรซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนสีนวลไปโรงเรียนด้วยความมั่นใจมากยิ่งขึ้นด้วยเสื้อผ้าเรียบ กระโปรงจีบสวย รอยยิ้มน่ารักของเธอปรากฏให้คุณครูได้เห็นความน่ารักสดใสและเป็นเด็กดีของสีนวลคงทำให้ใครหลาย ๆ คน ดังเช่น คุณครูและผู้พบเห็นอดเอ็นดูในความน่ารักของเธอไม่ได้แต่แล้ววันหนึ่งในคาบเรียนชั้นป.6 ครูสังเกตเห็นว่าท่าทีของสีนวลได้เปลี่ยนไป ท่าทีที่สดใสและรอยยิ้มของเธอนั้นหายไป การเรียนก็ตกลงวลาอยู่ในห้องเรียนก็นั่งเหม่อลอย 

เกิดอะไรขึ้น?
“ถึงเรียนไปก็ต้องออกไปเป็นลูกจ้างเขาอยู่ดี” มีเสียงหนึ่งดังในหัวของสีนวลเวลาเริ่มนับถอยหลังเรื่อย ๆ เมื่อความจริงที่เธอเผชิญอยู่ คือ สีนวลจะได้เรียนถึงแค่ ป.6 เนื่องจากการมาโรงเรียนในแต่ละวันจะต้องมีภาระค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ตามมา ค่าใช้จ่ายในเรื่องของค่าบำรุงการศึกษา ค่าประกันที่นักเรียนทุกคนต้องมี ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าชุดนักเรียน ค่าอุปกรณ์การเรียน  ยังไม่รวมกับเวลาที่มาโรงเรียนแล้วสีนวลไม่สามารถไปทำงาน part-time หารายได้พิเศษและยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเวลาที่ต้องทำงานกลุ่มกับเพื่อนๆ

ณ ตอนนั้น ทางออกเดียวจึงเป็นการที่สีนวลจะได้เรียนถึง ป.6 แล้วออกมาทำงาน

ทำให้การเรียนของสีนวลช่วง ป.6 ขาดเป้าหมายที่จะไปต่อ ถึงแม้ในใจของเธอรู้อยู่เต็มอกว่าเธออยากเป็นอะไร เธออยากออกไปท่องเที่ยว เดินทาง เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวด้วยความสามารถของตนเอง มัคคุเทศก์จึงเป็นอาชีพที่ใฝ่ฝัน แต่ทำอย่างไรได้ ภาษาก็ไม่ได้ องค์ความรู้ก็ยังไม่พอ

จนกระทั่ง ครูศุภราพรรับรู้เรื่องราวของสีนวลและมองว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายหากน้องจะต้องเสียโอกาสในการศึกษาต่อ เพราะสีนวลเป็นเด็กที่มีความประพฤติดี ครูจึงได้พยายามหาทุนการศึกษาให้ แม้ในความมืดย่อมมีแสงสว่าง ถึงแม้ว่า ณ ช่วงเวลาที่ยากลำบากของสีนวล หันไปทางไหนก็ไม่เห็นทางออก แต่ในที่สุดด้วยการสนับสนุนของโรงเรียนและความช่วยเหลือจากคุณครู ทำให้สีนวลได้รับทุนที่มีชื่อว่า “ทุนยุวพัฒน์”

“ทุนยุวพัฒน์” เป็นทุนการศึกษาที่ให้ต่อเนื่องตั้งแต่ ม.1 ถึง ม.6/ปวช.3 ภายใต้แนวคิดดังชื่อ ‘ยุวพัฒน์’ คือการมุ่งเน้นพัฒนาเยาวชน  ทุนนี้มอบให้กับน้อง ๆ นักเรียนที่มีฐานะยากจน ที่อยากเรียนหนังสือ แต่เสี่ยงที่จะออกจากโรงเรียนกลางคันหากไม่ได้รับทุนการศึกษา ซึ่งเป็นทุนที่ให้เปล่า ไม่มีข้อผูกมัดใด ๆ หลังจบ

สีนวลกลายเป็นหนึ่งในนักเรียนทุนยุวพัฒน์ แม้ว่าเธอจะไม่ได้เรียนเก่ง แต่ทุกท่านทราบไหมคะว่าหลังจากที่สีนวลได้รับทุนยุวพัฒน์ ทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป…

 .…จากช่วง ป.6 ที่เรียนไปวัน ๆ เพราะคิดกังวลอยู่ในหัวตลอดเรื่องจะได้เรียนต่อหรือไม่ แต่พอขึ้น ม.1 สีนวลมาโรงเรียนแต่เช้า จัดหนังสือสมุดสำหรับเรียนในแต่ละวัน  ลงมาช่วยทำความสะอาดโรงเรียน เก็บขยะ กวาดพื้น ตั้งใจเรียนในห้องมากขึ้น เพราะความหวังที่เปลี่ยนไป จากตอนแรกที่จะได้เรียนแค่ ป.6  อย่างน้อยตอนนี้ สีนวลก็มั่นใจได้ว่าเธอจะได้โอกาสเรียนต่อจนจบ ม.6….

ไม่เพียงเท่านั้น จากตอนแรกที่คุณแม่จะให้ออกมาทำงาน ตอนนี้ คุณแม่ก็ช่วยสนับสนุนค่ารถค่าเดินทางให้น้องสีนวล สีนวลยังหารายได้เสริมทุกวันเสาร์-อาทิตย์ด้วยการเป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหาร เงินทุนที่ได้ก็จะเก็บไว้ใช้กับการศึกษาจริง ๆ ส่วนค่ากิน-อยู่ก็จะมาจากเงินเก็บที่ได้จากการทำงานและเงินที่แม่ให้

“หนูดีใจมากเลยค่ะที่ได้รับทุนนี้ เพราะว่ามีคนมาสร้างกำลังใจให้หนูด้วย บางทีหลาย ๆ แรงบันดาลใจทำให้หนูได้เรียนสูงขึ้น มันจะเป็นอีกทางหนึ่งที่ทำให้หนูมีอนาคตที่ดีขึ้น จากที่หนูท้อมาก ไม่มีกำลังใจที่จะเรียนเพราะมันมีปัญหาเยอะมากเลยตอนนั้น แล้วรุ่นพี่ที่ได้รับทุนเหมือนกัน เขาบอกว่าพี่ก็ผ่านมาได้แล้ว พี่เขาเป็นเด็กทุนเหมือนหนู เขาได้เรียนต่อและสามารถทำอาชีพที่เขาอยากเป็นได้ด้วยความพยายามของเขา หนูก็เลยมีกำลังใจขึ้น และอยากขอบคุณมากที่สร้างโอกาสให้หนู หนูก็จะตั้งใจเรียน จะพยายามมากที่สุดเท่าที่จะทำได้”  สีนวลกล่าวกับทีมงาน

คุณครูศุภราพร ยังเล่าให้เราฟังว่า “ครูเห็นการเปลี่ยนแปลงในตัวสีนวลอย่างเห็นได้ชัด หลังจากที่ได้รับทุนยุวพัฒน์ เขากระตือรือร้นในการเรียนมากขึ้นที่จะได้เรียนหนังสือ เขาเรียนไม่เก่ง แต่เขามีความพยายาม มีความตั้งใจ มาโรงเรียนแต่เช้า รับผิดชอบในตัวเอง กลับบ้านมาก็ทำการบ้าน เขาเปลี่ยนไปเลยจากที่เคยเรียนผ่าน ๆ ไป กลายเป็นเขาตั้งใจและขยัน ทุนที่ได้มาเหมือนเป็นแสงสว่างให้กับเขา

มุมมอง ความคิด พฤติกรรมของน้องสีนวลที่เปลี่ยนไป ทำให้เห็นว่าความหวังในชีวิตที่ถูกเติมเต็ม  ทำให้คนเรากล้าที่จะทำตามความฝันของเขามากยิ่งขึ้น ไม่เพียงแต่ความหวังของสีนวลที่ถูกรดน้ำให้เติบโตขึ้นอีกครั้ง  มุมมองของคุณแม่ที่คิดว่าอาจจะให้น้องเรียนแค่ ป.6 แต่การได้รับทุนยุวพัฒน์มีส่วนทำให้คุณแม่ตั้งเป้าหมายใหม่ โดยพยายามสนับสนุนในค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ของน้องสีนวลให้เขาได้ไปต่อในระดับที่สูงขึ้นเท่าที่แม่จะทำได้

ทุนการศึกษาอาจจะไม่ใช่การแก้ปัญหาทั้งหมดแต่อย่างน้อยก็เป็นการสร้างโอกาสให้กับใครอีกหลายคนที่เขาอาจจะมีความฝันและอยากที่จะตั้งความหวังที่สูงขึ้นเพื่อก้าวข้าม ‘ข้อจำกัด หรือต้นทุนชีวิต’ ที่มาลิขิตชะตาชีวิตของพวกเขาอยู่ 

โอกาสเล็ก ๆ ที่เราหยิบยื่นให้กับใครบางคน อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของเขา 

 

ขอขอบคุณเรื่องราวสร้างรอยยิ้ม จากน้องสีนวลและคุณครูศุภราพร เตียมทะนะ
ร่วมบริจาคเพื่อเป็นทุนการศึกษาให้น้อง ๆ นักเรียนที่ขาดโอกาสได้ที่  https ://donate.tcfe.or.th/donate

#SchoolToolsxทุนยุวพัฒน์

#ร้อยพลังการศึกษาx@มูลนิธิยุวพัฒน์ (Yuvabadhana Foundation)